Sunday, September 28, 2014

เวนิส (Venice)

        เมืองเวนิส (Venice)
               
          เมืองเวนิส (Venice) หรือ เมืองเวเนเซีย (Venezia) หนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่รู้จักกันในด้านของความเจริญรุ่งเรืองทางประวัติศาสตร์และศิลปะ ที่ได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก (Queen of the Adriatic), เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges), และ เมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light)... โดยเมืองเวนิส นั้นเป็นเมืองหลวงของแคว้นเวเนโต (Veneto) 1 ใน 20 แคว้นที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี และยังเป็นแคว้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศ เป็นแคว้นที่มีความมั่งคั่งและเป็นแหล่งอุตสาหกรรมมากที่สุดในประเทศอิตาลี และยังเป็นแคว้นหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวมามากที่สุดแห่งหนึ่ง



      เมืองเวนิส ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมหมู่เกาะขนาดเล็กประมาณ 118 เกาะเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย (Venetian Lagoon) ทะเลสาบน้ำเค็มนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งระหว่างปากแม่น้ำโปกับแม่น้ำพลาวิ (Po and the Piave Rivers) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริก (Adriatic Coast) ในภาคเหนือของประเทศอิตาลี โดยทั้งเมืองและทะเลสาบได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 1987




เกาะซานจอร์โจ แมกจอเร



                    เนื่องจากว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเวนิสนั้นถูกโอบล้อมไปด้วยผืนน้ำอันกว้างใหญ่ การคมนาคมภายในเมืองเวนิสจังนิยมใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด โดยมีเรือบริการในการเดินทางไปในที่ต่างๆของเมืองมีการบริการท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ธรรมชาติของ 2 ฝั่งคลองโดยทางเรือ นับเป็นเมืองที่คลองมากกว่าถนนอีกเมืองหนึ่งของโลก โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ชื่นชมความงดงามของเหล่าอาคาร ร้านค้า รวมไปถึงบ้านเมืองที่ตั้งอยู่ตลอดสองฝั่งคลองที่ไหลคดเคี้ยวไปทั่งเมืองอีกด้วย สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองเวนิสนั้น สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ เกาะซานจอร์โจ แมกจอเร (San Giorgio Maggiore) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ เปียซซ่า ซาน มาร์โก (Piazza San Marco) หรือ จัตุรัสเซนต์มาร์ค (St Mark's Square) จัตุรัสสาธารณะหลักที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของเมืองเวนิส




โบสถ์ซานจอร์โจ แมกจอเร 



                 สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของเกาะซานจอร์โจ แมกจอเรคือ โบสถ์ซานจอร์โจ แมกจอเร (Church of San Giorgio Maggiore) คริสตจักรนิกายเบเนดิกในศตวรรษที่ 16 ซึ่งมีชื่อเดียวกับกันเกาะ โดยโบสถ์สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวในสไตล์คลาสสิกและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา หรือในช่วงระหว่างปี 1566 - 1610 ได้รับการออกแบบโดย Andrea Palladio 



มหาวิหารเซนต์มาร์ค 



               มหาวิหารเซนต์มาร์ค (St Mark's Basilica ) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บนเปียซซ่า ซาน มาร์โก เป็นมหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิกอัครสังฆมณฑลแห่งเวนิส (Roman Catholic Archdiocese of Venice) เป็นมหาวิหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองเวนิส และยังเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของมหาวิหารที่สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมไบเซนไทน์  มหาวิหารเซนต์มาร์ค ตั้งอยู่บริเวณด้านตะวันออกของเปียซซ่า ซาน มาร์โก ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่นักบุญมาร์ค ผู้ซึ่งเป็นที่นับถือในเวนิส ในฐานะนักบุญผู้เผยแผ่ศาสนาที่อิยิปต์ และถูกประหารชีวิต จุดเด่นของโบสถ์ที่ซานมาร์โคอยู่ที่การมีโดมถึง 5 โดม ได้รับการตกแต่งด้วยศิลปะที่แตกต่างกัน ทางด้านหน้าได้รับการประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญมาร์ค และรูปปั้นม้าบรอนซ์ 4 ตัว ซึ่งว่ากันว่าขโมยมาจากกรุงคอนสแตนติโนเปิล




หอระฆังเซนต์มาร์ค 



               หอระฆังเซนต์มาร์ค (St Mark's Campanile) หนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดของเมืองเวนิส โดยหอระฆังตั้งอยู่ใกล้ด้านหน้าของมหาวิหารเซนต์มาร์ค โดยหอระฆังมีความสูงประมาณ 98.6 เมตร (323 ฟุต) ปัจจุบันหอระฆังแห่งนี้ได้กลายเป็นจุดชมวิวที่สำคัญและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากแห่งหนึ่งของเมืองเวนิส



ปาลาซโซ ดูคาเล่ 



                      ปาลาซโซ ดูคาเล่ (Palazzo Ducale) หรือ พระราชวังดอดจ์ (Doge's Palace) พระราชวังที่สร้างขึ้นในแบบเวนีเชี่ยนโกธิค (Venetian Gothic style) โดยพระราชวังถูกใช้เป็นสถานที่พำนักของผู้ปกครองเวนิส และต่อมาถูกเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1923 โดยพิพิธภัณฑ์ดำเนินการโดย Fondazione Musei Civici di Venezia



แกรนด์คาแนล (เวนิส) 



                   แกรนด์คาแนล (เวนิส) (Grand Canal (Venice)) คลองที่มีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวและเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวที่อยากล่องเรือกอนโดล่า หรือที่เราเรียกกันว่าเรือแจว ลัดเลาะไปตามคลองที่มีความยาวประมาณ 3,800 เมตร และมีความกว้างประมาณ 30-90 เมตร นักท่องเที่ยวจะได้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆต่างๆของเวนิสมากมาย โดยจุดแรกที่จะได้ชมคือ โบสถ์ซานตา มาเรีย เดลลา ซาลูท (Santa Maria della Salute) โบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ที่ปากทางเข้าแกรนด์คาแนล เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่จัดว่าเป็นสัญลักษณ์ของเวนิส โบสถ์แบบบาโร้กขนาดใหญ่แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อขอบคุณพระเจ้าในโอกาสที่โรคระบาดได้หายไปจากเวนิสในปี ค.ศ. 1630 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1687 ห้าปีหลังจากผู้ริเริ่มสร้างโบสถ์ได้เสียชีวิต



สะพานซิงห์ 



       สะพานซิงห์ (Bridge of Sighs) สะพานเก่าแก่ที่เชื่อมต่อระหว่างวังดูคาเลกับคุกเก่า เป็นเส้นทางลำเลียงนักโทษเข้าสู่ตัวคุก ออกแบบโดย Antoni Contino ในปี ค.ศ.1602 สร้างมาจากหินปูนสีขาว มีช่องหน้าต่างให้มองออกมาได้ เพื่อให้นักโทษได้ชมความสวยงามของท้องฟ้า และทะเลแห่งเวนิสเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต โดยชื่อ Lord Byron ได้ตั้งชื่อว่าสะพานซิงห์ ในศตวรรษที่ 19 เนื่องมาจากนักโทษจะได้ถอนหายใจเป็นครั้งสุดท้ายที่ สะพานแห่งนี้นั่นเอง

***เรือกอนโดลา อีกสัญลักษณ์หนึ่งของเวนิส มีความเชื่อมาว่า ถ้าคู่รักได้จูบกัน เมื่อตอนระฆังปาไนล์ดังตอนเย็น ขณะลอดข้ามสะพานถอนหายใจ ถือว่าคนนั้นจะรักกันยืนนาน***




สะพานริอัลโต 



            สะพานริอัลโต (Rialto) เดิมทีเป็นสะพานไม้ และสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 หลังจากที่พังทลายลง สะพานหินก็ถูกสร้างขึ้นทดแทน และเป็นสะพานข้าม Grand Canal เพียงแห่งเดียวจนถึงปี ค.ศ. 1854 จนกลายเป็นศูนย์กลางการคมนาคม และค้าขายแลกเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของเวนิส ใครที่มาเวนิสแล้วไม่ได้มาข้ามสะพานนี้ถือว่ามาไม่ถึง เป็นจุดถ่ายภาพที่สำคัญแห่งหนึ่ง รอบๆ สะพานเป็นย่านขายของที่ระลึกและตลาดขายของสด

      นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆอีกมาหมาย อาทิเช่น โบสถ์ซานตา มาเรีย กลอริโอซา เดอิ ฟรารี (Santa Maria Gloriosa dei Frari) , พิพิธภัณฑ์ แก้วมูราโน่ (Murano Glass Museum) , แกลเลอรี่เดลแอคคาเดเมีย (Gallerie dell'Accademia) และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก.....










Special Thanks..
Credit by

http://travel.thaiza.com/travel/242130/
http://travel.mthai.com/world-travel/32088.html
http://pirun.ku.ac.th/~b5310700633/venice.html


ฟลอเรนซ์ (Florence)


เมืองฟลอเรนซ์ (Florence)


เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) หรือ เมืองฟีเรนเซ (Firenze) คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี โดยเมืองฟลอเรนซ์นั้นเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฟลอเรนซ์ (Firenze: FI) และแคว้นทัสกานี (Tuscany) แคว้นที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ศาสนา วัฒนธรรม และอุตสาหกรรม ของประเทศอิตาลีนั่นเอง 



เมืองฟลอเรนซ์ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน (Arno River) ปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากเป็นอันดับต้นๆของโลก โดยเฉพาะในช่วงยุคกลางเมืองฟลอเรนซ์ยังเป็นศูนย์กลางทางการค้าและทางการเงิน และถือกันว่าเป็นที่เกิดของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา และยังมีชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางศิลปะและสถาปัตยกรรม ในยุคกลางฟลอเรนซ์เป็นที่รู้จักกันในนามว่าเอเธนส์อีกด้วย




จัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม และ มหาวิหารฟลอเรนซ์


 


      เมื่อปี ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ใจกลางเมืองเก่าของเมืองฟลอเรนซ์ได้รับเลือกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (Unesco) เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของเรอเนสซองส์ ที่ได้เติบโตขึ้นเป็นอิทธิพลทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมภายใต้การปกครองของตระกูลเมดิชี (Medici) ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 -16 รวมไปถึงกิจกรรมทางศิลปะที่พิเศษอันดำเนินไปในช่วง 600 ปี เห็นได้ชัดเจนที่สุดจากสถานที่ท่องเที่ยว โบราณสถาน และอื่นๆในเขตเมืองเก่าฟลอเรนซ์  สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองฟลอเรนซ์นั้น จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวแรกนั้นขอแนะนำให้คุณมุ่งหน้าไปยังบริเวณใจกลางเมืองเก่าของเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของจัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) จัตุรัสที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้าชมมากที่สุดในยุโรป โดยจัตุรัสนั้นตั้งอยู่ในใจกลางของศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองฟลอเรนซ์





           จอตโต แคมพานีลี 



      จอตโต แคมพานีลี (Giotto's Campanile) หรือ จอตโต เบล ทาวเวอร์ (Giotto's bell Tower) หอระฆังที่เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิหารฟลอเรนซ์ ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิค ด้วยความสูงประมาณ 84.7 เมตร (277.9 ฟุต) ตัวหอคอยถูกตกแต่งด้วยรูปปั้น รูปแกะสลักอย่างดงาม และไม่ไกลจากกันนักจะเป็นที่ตั้งของหอทำพิธีศีลจุ่ม (Florence Baptistery) เป็นอาคารทางศาสนาที่มีสถานะเป็นโบสถ์ขนาดเล็กเป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง โดยหอแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1059 – 1128





สะพาน ปอนเต เวชชิโอ 



ความงดงามของ สะพาน ปอนเต เวชชิโอ (Ponte Vecchio) สะพานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสัญจรข้ามแม่น้ำอาร์โน โดยบนสะพานนั้นเป็นที่ตั้งของอาคารร้านค้า ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายงานศิลปะ อัญมณี และของที่ระลึกจำนวนมาก โดยเชื่อกัยว่าสะพานที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยโรมัน ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของเมืองฟลอเรนซ์





ปาลาสโซ ปิทติ 




                      ปาลาสโซ ปิทติ (Palazzo Pitti) หรือที่นิยมเรียกกันว่า วังปิตติ พระราชวังเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนด้านทิศใต้ของแม่น้ำอาร์โนและอยู่ไม่ไกลจากสะพาน ปอนเต เวชชิโอมากนัก โดยพระราชวังถูกสร้างเมื่อปีค.ศ. 1458 เดิมเป็นบ้านพักของ ลูคา ปิตตี้ (Luca Pitti) ผู้เป็นทั้งพ่อค้าแลนายธนาคาร หลังจากนั้นได้ขายให้กับตระกูลเมดิชี (Medici Family) ในปี 1549 และได้กลายเป็นที่พำนักประจำตระกูลปัจจุบันวังปิตตี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เต็มไปด้วยศิลปวัตถุ เช่น โคมระย้าเก่าแก่ที่งดงามอลังการ เครื่องเรือน และภาพเขียนชิ้นสำคัญๆของศิลปินผู้มีชื่อเสียงแห่งยุคที่เก็บรักษาอยู่ภายใน นอกจากนี้แล้วภายในพระราชวังยังเป็นที่ตั้งของ สวนโบโบลิ (Boboli Gardens) สวนสไตล์อิตาเลียนที่ถูกสร้างขึ้นด้านหลังของพระราชวัง เป็นสวนที่มีเนื้อที่ 45,000 ตารางเมตร ออกแบบโดยตริโบโล (Tribolo) นักจัดสวนมือหนึ่งของอิตาลีในขณะนั้น ภายในสวนได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยรูปปั้นและน้ำพุจำนวนมาก








Special Thanks
credit by....

http://florencecathedralduomo.blogspot.com/
http://travel.thaiza.com/travel/242238/
http://travel.kapook.com/view43734.html







แบบฝึกหัดที่4


แบบฝึกหัด
             บทที่ 4 เทคโนโลยีสารสนเทศ                                  กลุ่มเรียน 2
             รายวิชา  การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน              รหัสวิชา 0026008
             ชื่อ-สกุล  คีรัยยา  พันป้อง       รหัส 57010112585

คำชี้แจง
  จงตอบคำถามต่อไปนี้
       1.  ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3                 ชนิด แล้วแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบกับเพื่อน
               1)      การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล เช่น  แผ่นซีดี แผ่นดีส รอม              
               2)      การแสดงผล เช่น จอภาพ ลำโพง เครื่องพิมพ์
               3)       การประมวลผล เช่น ซีพียู ชิป memory                             
               4)      การสื่อสารและเครือข่าย เช่น ฮับ โมเด็ม เราเตอร์
                                                                                                                                                                   
       2. ให้นิสิตนำตัวเลขในช่องขวา มาเติมหน้าข้อความในช่องซ้ายที่มีความที่สัมพันธ์กัน

…8…ซอฟต์แวร์ประยุกต์
1. ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผลข้อมูล
…3…Information Technology
2. e-Revenue
...1...คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล
3. เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็วต่อการนำไปใช้
…6…เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย
4.มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ Sender Medium และDecoder
…10…ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการททำงาน
5. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย
…7…ซอฟต์แวร์ระบบ
6. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
…9…การนำเสนอบทเรียนในรูปมัลติมีเดีย ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ตามระดับความสามารถ
7. โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์
…5…EDI
8. โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ จัดเป็นซอฟต์แวร์ประเภท
…4…การสื่อสารโทรคมนาคม
9. CAI
…2…บริการชำระภาษีออนไลน์
10. ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

Sunday, September 21, 2014

แบบฝึกหัดที่3

แบบฝึกหัด
บทที่ 3 การรู้สารสนเทศ                                                           กลุ่มเรียนที่ 2
รายวิชา  การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                        รหัสวิชา 0026008
ชื่อ-สกุล คีรัยยา  พันป้อง    รหัส 57010112585


คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
1. ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องที่สุดของการรู้สารสนเทศ
ก. ความสามารถในการกลั่นกลอง และประเมินค่าสารสนเทศที่หามาได้
ข. ความสามารถในการตัดสินใจใช้สารสนเทศรูปแบบต่างๆ
ค. ความสามารถของบุคคลในการสืบค้นและพัฒนาสารสนเทศ
ง. ความสามารถของบุคคลในการเข้าถึง ประเมิน และใช้งานสารสนเทศ

2. จากกระบวนการของการรู้สารสนเทศ ทั้ง 5 ประการ ประการไหนสำคัญที่สุด
ก. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
ข. ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
ค. ความสามารถในการประมวลผลสารสนเทศ
ง. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของผู้รู้สารสนเทศ
ก. สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
ข. สามารถใช้สารสนเทศในการดำเนินชีวิต
ค. ชอบใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกม
ง. ใช้คอมพิวเตอร์ในการแสวงหาสารสนเทศได้

4.ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
ก.  โลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเน้นวัตถุนิยมมากขึ้น

ข.  ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต
ค.  สารสนเทศมีการเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะเข้าถึง
ง.   ช่วยบุคคลเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
   
5. ข้อใดเป็นการเรียงลำดับขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้สารสนเทศที่ถูกต้อง
1. ความสามารถในการประมวลสารสนเทศ
2. ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
3. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
4. ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
5. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
ก. 1-2-3-4-5              
ข. 2-4-5-3-1            
ค. 5-4-1-2-3            
ง. 4-3-5-1-2